มีความคิดเห็นมากมายที่อ้างผลงานวิจัยทางจิตวิทยาว่าทัศนคติเชิงบวกมีคุณแก่ชีวิต ทั้งในด้านการงาน ชีวิตส่วนตัว แม้กระทั่งความรัก และผมเองก็เห็นด้วย คือเชื่อว่าจริง
แต่ปัญหาในโลกนี้ซับซ้อนมากน้อยต่างกัน ผู้คนที่เป็นผู้รับมือกับปัญหาเองก็มีความฉลาดมากน้อยต่างกัน ผมเองก็ไม่ใช่คนฉลาดนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ฉลาดเลยกับการรับมือกับอารมณ์ของตัวเอง คือขาดทักษะทางด้านนี้อย่างมาก
ทำให้เกิดอุปสรรคว่าถึงจะเชื่อว่าคิดบวกน่าจะช่วยได้ก็ตาม แต่จะคิดบวกอย่างไรเมื่อประสบปัญหาจริง เกิดผลเสียหายขึ้นจริง และต้องรับผิดชอบจริง เอาแบบบวกจริง ๆ นะ ไม่ใช่แค่เสแสร้งแกล้งยิ้ม
ทัศนคติเชิงบวกอีกอย่างหนึ่งในการสอน ซึ่งผมก็เชื่อและพยายามทำเช่นกันก็คือการให้ Feedback เชิงบวกแก่นักศึกษาเป็นประจำ คือท่านให้ชมเรื่อย ๆ เรื่องนี้ผมก็เชื่อว่าเป็นของดี
แต่ค่านิยมฝ่ายทัศนคติเชิงบวกมักไม่พูดถึงการตำหนิหรือดุด่าว่ากล่าวที่ดูจะเป็นสิ่งน่ารังเกียจเสียด้วยซ้ำสำหรับสำนักคิดนี้ ทำให้ในทางปฏิบัติผมยังติดขัดในบางกรณีที่พอเจอปัญหาปั๊บ ไม่รู้จะรับมือกับนักศึกษาอย่างไรนอกเหนือไปจากการตำหนิอย่างรุนแรง แล้วก็มานั่งเป็นทุกข์ กังวลใจว่าเราทำไม่ถูกต้อง ไม่เกิดผลดี
ผมอยากได้เส้นทาง ผมอยากได้ตัวอย่าง ผมอยากรู้ว่าเวลาคนอื่นเจอปัญหาอย่างนิ้ ๆ อย่างที่เราเจอเนี่ย เขารับมือกับปัญหาอย่างไร เขาแก้ไขปัญหาอย่างไร เขารับผลของมันอย่างไร เพื่อเป็นแบบอย่างที่เป็นรูปธรรมไปเลยว่าคนคิดบวกเขารับมือกับปัญหาอย่างนี้ ๆ ด้วยวิธีการอย่างนี้ ๆ เราจะได้เอามาทดลองทำบ้าง ได้ผลก็ดีไป ไม่ได้ผลก็หาวิธีการอื่นต่อไป
ผู้คนฝ่ายทัศนคติเชิงบวกหลายคนคงมองว่าคิดบวกเป็นเส้นทาง ก็แค่คิดให้มันเป็นบวกมันจะไปยากอะไร ท่านประสบความสำเร็จแล้วผมยินดีด้วย
สำหรับผมที่เป็นบัวระดับต่ำกว่านั้น มองว่าคิดบวกคือเป้าหมายและตอนนี้ผมอยากได้เส้นทางเพื่อใช้เดินไปสู่ระดับความคิดขั้นนั้น....แม้ตอนนี้ก็ยังตามหาอยู่